ข่าวด่วน ทันเหตุการณ์ เศรษฐกิจ การลงทุน หุ้น อสังหาริมทรัพย์ ไอที-เทคโนฯ รถยนต์ ท่องเที่ยว ต่างประเทศ รวดเร็วสดใหม่ทุกวัน
คปภ. เผยมาตรการช่วยเหลือประชาชนด้านประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์พายุฝน พร้อมแนะแนวปฏิบัติตามมาตรฐานการซ่อมรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วม
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ติดตามสถานการณ์พายุฝนและน้ำท่วม ที่ส่งผลกระทบต่อหลายพื้นที่ของประเทศอย่างใกล้ชิด โดยมีความห่วงใยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เกษตรกร และผู้เอาประกันภัย จึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือด้านการประกันภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติครั้งนี้ โดยมาตรการดังกล่าวครอบคลุมทั้ง กรมธรรม์ประกันชีวิต กรมธรรม์ประกันวินาศภัย และกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้
มาตรการดังกล่าว ครอบคลุมทั้งกรมธรรม์ประกันชีวิต ประกันวินาศภัย รวมทั้งประกันภัยรถยนต์ สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 20 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2568
โดยในส่วนของประกันชีวิต บริษัทประกันภัยอาจขยายระยะเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ยประกันภัยออกไปอีก 60 วัน นับแต่วันครบระยะเวลาผ่อนผันเดิม ผ่อนผันการงดตรวจสุขภาพและยกเว้นดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นสำหรับการต่ออายุ และการกลับคืนสู่สถานะเดิม ของกรมธรรม์ประกันภัย รวมถึงการเปลี่ยนแปลงงวดการชำระเบี้ยประกันภัยหรือกรณีชำระเบี้ยประกันภัยรายงวดที่น้อยกว่า 1 ปี โดยให้บริษัทประกันชีวิตผ่อนผันไม่เรียกเก็บดอกเบี้ยในช่วงเวลาดังกล่าว
สำหรับ ประกันวินาศภัย ยกเว้นประกันภัยรถยนต์ หากมีกำหนดระยะเวลาเก็บเบี้ยประกันภัย ในระยะเวลาข้างต้น บริษัทอาจขยายระยะเวลาการเก็บเบี้ยประกันภัยออกไปได้สูงสุด 90 วัน ในส่วนของการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยสุขภาพ กรมธรรม์ประกันภัยโรคร้ายแรง หรือกรมธรรม์ประกันภัยที่มีการคุ้มครองในลักษณะเดียวกัน บริษัทอาจงดการตรวจสุขภาพในการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยได้ โดยให้ถือว่าความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยในปีต่ออายุเป็นความคุ้มครองต่อเนื่องในปีก่อนหน้า และไม่นำเงื่อนไขทั่วไปเรื่องสภาพที่เป็นมาก่อนการเอาประกันภัย และเรื่องระยะเวลาที่ไม่คุ้มครองมาเริ่มนับใหม่
ส่วนประกันภัยรถยนต์ ยกเว้น รถยนต์นั่งกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 สำหรับการทำสัญญาประกันภัยกับบริษัท ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2568 บริษัทอาจผ่อนผันการเก็บเบี้ยประกันภัยและรับเบี้ยประกันภัยได้จนถึง 180 วัน นับแต่วันที่สัญญาประกันภัยมีผลใช้บังคับ หรือวันที่สัญญาประกันภัยเริ่มต้นมีผลคุ้มครอง ทั้งนี้ หากเกิดอุบัติเหตุในช่วงระยะเวลาผ่อนผัน บริษัทจะรับผิดชอบความเสียหายตามความคุ้มครอง โดยผู้เอาประกันภัยต้องชำระเบี้ยประกันภัยทันที
สำหรับ ทรัพย์สินที่เป็นรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมให้ยึดถือแนวปฏิบัติตามมาตรฐานการซ่อมรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งแบ่งเป็น 5 ระดับ เพื่อให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลืออย่างเหมาะสมและเป็นธรรม ได้แก่
ระดับ A น้ำท่วมถึงพื้นรถยนต์ ประเมินค่าซ่อม 8,000 - 10,000 บาท
ระดับ B น้ำท่วมถึงเบาะนั่ง ประเมินค่าซ่อม 15,000 - 20,000 บาท
ระดับ C น้ำท่วมถึงส่วนล่างของคอนโซลหน้า ประเมินค่าซ่อม 25,000 - 30,000 บาท
ระดับ D น้ำท่วมถึงส่วนบนของคอนโซลหน้า ประเมินค่าซ่อมเริ่มต้นที่ 30,000 บาทขึ้นไป
ระดับ E รถยนต์จมน้ำทั้งคัน ซึ่งในกรณีนี้บริษัทจะคืนทุนประกันภัยให้กับผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์
สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนและอุทกภัย โดยยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัยอย่างครบถ้วนและเป็นธรรม หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความคุ้มครองหรือพบปัญหาในการใช้สิทธิประกันภัย สามารถติดต่อสายด่วน คปภ. 1186 เว็บไซต์ www.oic.or.th หรือสำนักงาน คปภ. ในส่วนภูมิภาค ซึ่งพร้อมให้บริการและให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างใกล้ชิดในพื้นที่จังหวัด สำนักงาน คปภ.
สงวนลิขสิทธิ์ © 2557 บริษัท เพาเวอร์ ไทม์ มีเดีย จำกัด