ข่าวด่วน ทันเหตุการณ์ เศรษฐกิจ การลงทุน หุ้น อสังหาริมทรัพย์ ไอที-เทคโนฯ รถยนต์ ท่องเที่ยว ต่างประเทศ รวดเร็วสดใหม่ทุกวัน

คปภ.ร่วมกับ ตำรวจสอบสวนกลาง แถลงผลการจับกุมคดี'บริษัท มายคาร์ เซอร์วิส พลัส 1989' แอบอ้างขายประกันภัยรถยนต์ โดยไม่ได้รับอนุญาต

หมวดหมู่: ประกัน
วันที่สร้าง วันจันทร์, 08 กันยายน 2568 10:43
ฮิต: 253
คปภ.ร่วมกับ ตำรวจสอบสวนกลาง แถลงผลการจับกุมคดี'บริษัท มายคาร์ เซอร์วิส พลัส 1989' แอบอ้างขายประกันภัยรถยนต์ โดยไม่ได้รับอนุญาต
0 แชร์

มายคาร์เซอร์วิสพลัส1989คปภ.ร่วมกับ ตำรวจสอบสวนกลาง แถลงผลการจับกุมคดี'บริษัท มายคาร์ เซอร์วิส พลัส 1989 จำกัด' แอบอ้างขายประกันภัยรถยนต์ โดยไม่ได้รับอนุญาต พบผู้เสียหายเกือบ 500 ราย มูลค่ารวมกว่า 30 ล้านบาท

      คปภ. ร่วมกับ ตำรวจสอบสวนกลาง แถลงผลการจับกุมคดี'บริษัท มายคาร์ เซอร์วิส พลัส 1989 จำกัด'แอบอ้างขายประกันภัยรถยนต์โดยไม่ได้รับอนุญาต พบผู้เสียหายเกือบ 500 ราย มูลค่ารวมกว่า 30 ล้านบาท  สืบเนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายที่ซื้อรถยนต์จากเต็นท์รถมือสองย่านบางแคและนนทบุรี โดยผู้เสียหายแจ้งว่ามีการเสนอขายประกันภัยรถยนต์ จากบริษัท มายคาร์ เซอร์วิส พลัส 1989 จำกัด (บริษัท มายคาร์ฯ)

      สำนักงาน คปภ. จึงได้ตรวจสอบใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัยแต่ไม่พบว่า บริษัท มายคาร์ฯ ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจประกันภัยแต่อย่างใด กลุ่มงานคดีจึงได้มีหนังสือให้บริษัท มายคาร์ฯ มาให้ข้อเท็จจริงสำหรับกรณีที่กระทำการรับประกันภัยโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งบริษัท มายคาร์ฯ ได้ให้ข้อเท็จจริงว่า ได้รับประกันคุณภาพของรถยนต์มือสองที่ลูกค้าซื้อจากเต็นท์ขายรถยนต์มือสอง ซึ่งเป็นเต้นท์คู่สัญญากับบริษัท มายคาร์ฯ กว่า 20 แห่ง และมีอู่เครือข่ายกว่า 200 แห่ง

    โดยให้ความคุ้มครองความเสียหายจากการเสื่อมคุณภาพของอะไหล่หรือเครื่องยนต์ตามรายการที่ระบุไว้ในเอกสารแนบท้ายตารางประกันสุขภาพรถยนต์ สูงสุด 300,000 บาท ซึ่งบริษัท มายคาร์ฯ จะเรียกเก็บเงินค่าเบี้ยประกันคุณภาพสินค้าจากเต็นท์รถยนต์เป็นรายเดือน ตามตารางราคาในเอกสารประกอบการเสนอขาย (โบรชัวร์) โดยค่าเบี้ยปร

      สำนักงาน คปภ. พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำดังกล่าวมีลักษณะเป็นการทำสัญญาระหว่างบริษัท มายคาร์ฯ กับผู้ซื้อ รถยนต์มือสอง โดยบริษัท มายคาร์ฯ ตกลงจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือใช้เงินจำนวนหนึ่งให้ในกรณีวินาศภัยหากมีขึ้น หรือเหตุอย่างอื่น

    ในอนาคตดังได้ระบุไว้ในสัญญา และเต็นท์รถมือสองหรือผู้ซื้อรถยนต์ แล้วแต่กรณี เป็นผู้ส่งเงินจำนวนหนึ่งหรือที่เรียกว่า เบี้ยประกันภัย ให้แก่บริษัท มายคาร์ฯ การกระทำดังกล่าว จึงมีลักษณะเป็นการรับประกันภัย ตามมาตรา 861 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งบริษัท มายคาร์ฯ มีฐานะเสมือนเป็น 'ผู้รับประกันภัย' ส่วนเต็นท์ขายรถยนต์มือสองและผู้ซื้อรถยนต์ เสมือนเป็น'ผู้เอาประกันภัย'หรือ 'ผู้รับประโยชน์' ตามความในมาตรา 862 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แล้วแต่กรณี

    เมื่อบริษัท มายคาร์ฯ ไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจประกันภัย ตามกฎหมายว่าด้วยการประกันภัย การกระทำของบริษัท มายคาร์ฯ จึงเป็นการรับประกันภัย โดยไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัย อันเป็นความผิดตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 มีบทกำหนดโทษตามมาตรา 86 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปีถึง 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละ 20,000 บาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่ สำนักงาน คปภ. จึงได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามก

     ภายหลังจากการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษดังกล่าว เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. ได้เข้าตรวจค้นสถานที่เป้าหมาย 2 จุด ได้แก่ เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร และอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร พร้อมตรวจสอบเต็นท์จำหน่ายรถยนต์มือสองอีก 2 แห่ง ในย่านบางแคและนนทบุรี ผลการตรวจค้นพบว่าบริษัทมีลักษณะเป็นทาวน์โฮม ไม่มีการประกอบธุรกิจจริงและได้ตรวจยึดเอกสารจำนวนมาก อาทิ ใบโฆษณา ใบตรวจสภาพรถยนต์ สมุดคู่มือ และตารางกรมธรรม์ที่บริษัทจัดทำขึ้นเอง

     โดยไม่เคยได้รับอนุญาตจากสำนักงาน คปภ. จากการตรวจสอบข้อมูลทางการเงิน ยังพบการหมุนเวียนของเงินกว่า 30 ล้านบาท จากผู้เอาประกันจำนวน 259 ราย และเต็นท์รถยนต์ คู่สัญญา 52 ราย โดยเงินถูกโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของกรรมการ ทั้งสามเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว โดยไม่มีการกันเงินสำรองค่าสินไหมหรือจัดตั้งกองทุนความเสี่ยงตามหลักเกณฑ์ธุรกิจประกันภัย ทำให้ผู้เสียหายเกือบ 500 ราย ได้รับความเสียหาย พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและยื่นคำร้อง ต่อศาล เพื่อขอหมายจับผู้กระทำความผิดทั้งสาม ในความผิดตามพระราชบัญญัติ ประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 และ พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำค

     ต่อมาเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568 สำนักงาน คปภ. โดยนายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการ ด้านกฎหมายและตรวจสอบ และนายจอม จีระแพทย์ ผู้ช่วยเลขาธิการ สายกฎหมายและคดี พร้อมด้วยผู้แทนสายกฎหมายและคดี ได้เดินทางไปยังกองบังคับการปราบปราม เพื่อร่วมแถลงผลการจับกุมผู้กระทำความผิด ฐานความผิด “ร่วมกันเป็นผู้รับประกันภัยโดยไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัย นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”

     ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. ขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการซื้อประกันหรือการทำสัญญาประกันภัยทุกประเภทกับบริษัท หรือนิติบุคคลที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันภัย พร้อมย้ำว่าการทำประกันภัยทุกประเภทต้องเป็นกรมธรรม์ที่ออกโดย บริษัทประกันภัยที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน คปภ. เท่านั้น โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นของบริษัท หรือตัวแทน - นายหน้าประกันภัย และเลขกรมธรรม์ได้ที่สำนักงาน คปภ. หรือ Line Official Account @OICConnect หรือสอบถามผ่าน สายด่วน คปภ. 1186

 

Click Donate Support Web 

NHA Baner

PTG 720x100MTI 720x100Banner GPF720x100 PXTOA 720x100EXIM One 720x90 C JMTL 720x100SME720x100 2024CKPower 720x100

QIC 720x100วิริยะ 720x100aia 720 x100BKI 720 x 100ธกส 720x100ใจฟู720x100pxAXA 720 x100